Your Place or Mine ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่เขียนบทและกำกับโดย Aline Brosh McKenna ผู้กำกับหน้าใหม่ในผลงานเรื่องแรก นำแสดงโดย Reese Witherspoon และ Ashton Kutcher ในฐานะเพื่อนซี้ที่ต้องมาแลกบ้านกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เรื่องราวความรักความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความปั่นป่วนจึงบังเกิดขึ้น
สำหรับ Your Place or Mine ได้เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครหลักสองคนคือ ลอรี (แสดงโดย Reese Witherspoon) และเท็ด ( แสดงโดย Ashton Kutcher) ลอรีเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ เธอมีชีวิตที่หรูหราร่ำรวยในเมืองลอสแองเจลิส ในขณะที่เท็ดเป็นครูสอนดนตรีที่มีชีวิตเรียบง่ายสบายๆ ในเมืองชิคาโก แน่นอนว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนซี้กันมากว่า 15 ปีแล้ว และมักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลอรีได้รับข้อเสนองานในชิคาโก เธอจึงตัดสินใจที่จะฝากบ้านสลับกันอยู่กับบ้านของเท็ดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเธอเองก็หวังว่าจะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ชิคาโก ในขณะที่เท็ดหวังว่าจะได้สัมผัสชีวิตในลอสแองเจลิส จนเมื่อลอรีมาถึงชิคาโก เธอรู้สึกแปลกใจกับชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆ ของเท็ด ทั้งการที่ต้องเรียนรู้ที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทำอาหาร ซักรีด ไปจนถึงสอนหนังสือให้กับนักเรียน ส่วนด้านเท็ดก็รู้สึกตื่นเต้นกับชีวิตในลอสแองเจลิส ที่มีโอกาสได้พบกับคนดังและสัมผัสกับไลฟ์สไตล์สุดหรูของดาราเซเลบ
จนเมื่อเวลาผ่านไป ลอรีและเท็ดเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนรู้ใจกันก็เริ่มที่จะมองเห็นข้อดีของกันและกันมากขึ้น ลอรีเองก็เริ่มที่จะชื่นชอบชีวิตที่เรียบง่ายของเท็ด ในขณะที่เท็ดเองก็เริ่มที่จะมองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานของเธอด้วย ทำให้ทั้งคู่เผลอตกหลุมรักกันแบบไม่รู้ตัว แต่ทั้งคู่ก็รู้ว่าความสัมพันธ์นี้นั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละคนต่างก็มีชีวิตที่ต่างกันมากขนาดนี้
ต้องบอกว่า Your Place or Mine มีจุดเด่นอยู่ที่การแสดงของนักแสดงนำทั้งคู่ที่เคมีเข้ากันได้ดีมากๆ ถ่ายทอดการเป็นคนโสดได้แบบหวานจริงๆ ทั้งๆ ที่ในบทก็เป็นเพื่อนคู่ใจกันมานาน แต่พอถึงฉากที่ต้องเล่นเลิฟซีนนี่ก็ทำให้แทบจะหวานจนมดขึ้นกันเลยทีเดียว แถมที่สำคัญเรื่องนี้ยังเป็นโรแมนติกคอมเมดี้อีกด้วย จึงทำให้เราจะได้เห็นมุกตลกแทรกให้เราได้หัวเราะตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็ดีไซน์ออกมาได้ดีมาก เพราะช่วยให้หนังไม่เลี่ยนจนเกินไป
เรื่องที่ต้องติเล็กน้อยก็คือพล็อตหนังที่ค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย เป็นไปตามสูตรสำเร็จของหนังรักคอมเมดี้ทั่วๆ ไปที่เราก็หารับชมได้ไม่ยาก ซึ่งก็ไม่ได้มีความตื่นเต้นแปลกใหม่อะไรขนาดนั้น โดยจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก แต่ฉากรักของตัวละครค่อนข้างน้อยและไม่ค่อยมีบทสนทนาที่ทำให้รู้สึกว่าหวานโรแมนติกแบบเวอร์ๆ อีกด้วย
สรุปโดยรวมก็ให้เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่เนื้อหาดี เล่าเรื่องได้สนุก หวานโรแมนติกแบบติดมุกตลก มีกิมมิกที่ทำให้ไม่เลี่ยนเกินไป เรื่องราวก็น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง เพียงแต่อาจจะไม่ได้แปลกใหม่หรือว้าวอะไรมากขนาดนั้น ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาหนังรักสนุกๆ หรือชื่นชอบแนวนี้อยู่แล้วก็น่าจะถูกอกถูกใจกันอย่างแน่นอน